การปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศหนึ่งอาจมีผลกระทบกับธุรกิจที่อยู่ในอีกประเทศหนึ่งให้ได้ประโยชน์หรือเสียประโยนชน์มากกว่าที่หลายคนคาดคิด และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จากกระแสข่าวที่ จีนจะสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 ที่ ถือเป็นการปรับนโยบายครั้งใหญ่หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนกำหนดให้คู่สมรสมีบุตรได้ไม่เกิน 2 คน หลังจากที่อัตราการเกิดชะลอตัวลงอย่างมาก ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว การปรับนโยบายเช่นนี้ทำให้หุ้นโรงพยาบาลขนาดกลางของไทยอย่าง EKH ได้รับผลบวกแบบจัดเต็ม

EKH หรือ โรงพยาบาลเอกชัย เป็นโรงพยาบาลขนาดกลาง ย่านพระราม 2 มีจำนวนเตียงทั้งสิ้น 142 เตียง และหนึ่งในธุรกิจที่โดดเด่นของ EKH คือ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก หรือ IVF โดยสามารถสร้างรายได้ให้กับ EKH จาก IVF ในปี 2563 ประมาณ 3 % แต่ด้วยความเชี่ยวชาญของ EKH ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า รายได้ในส่วนนี้จะสามารถเติบโตได้อีก 5 เท่าตัว

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส มองว่า EKH การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเป็น ปัจจัยในการเติบโต ของปี 65 โดยขณะนี้ทางการจีนประกาศให้ครอบครัวมีบุตรได้ 3 คนแล้ว ซึ่งเป็นบวกกับ EKH เพราะรพ.เชี่ยวชาญในด้านสูตินรีเวชและการทำ IVF รวมทั้งก่อนโควิดก็มีคนจีนเข้ามาทำ IVF กันมาก โดยรพ.มีการจับมือกับบริษัททัวร์ในการนำคนจีนเข้ามา คาดว่าในปี 65 จำนวนเคส IVF จะเพิ่มขึ้นเป็น 312 เคส ซึ่งจะทำรายได้ราว 16% ของรายได้รวมในปี 65(จาก 90 เคสในปี 64)คาดว่าจะมีรายได้จากการฉีดวัคซีนโควิดเข้ามาเสริมด้วย โดยรพ.มีแผนนำเข้าวัคซีนโควิดของโมเดอร์นาและซิโนฟาร์มเข้ามา แต่ยังไม่ได้ระบุปริมาณที่จะนำเข้าและราคา รพ.สำหรับผู้สูงอายุจะเปิดในไตรมาสที่ 1 ปี 65 โดยเป็นรพ.ขนาด 39 เตียง อยู่ในทำเลพระราม 2 ใช้เงินลงทุน 110 ล้านบาทระยะเวลาคืนทุน 6 ปี

คาดผลประกอบการมีโมเมนตัมดีต่อในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยหลักมาจากรายได้เกี่ยวกับโควิด-19 ทั้งนี้แม้ว่าการระบาดของโควิดระลอกที่ 3 จะเกิดในพื้นที่กรุงเทพ แต่การเข้าตรวจโควิดและเข้ารับการรักษาโควิดในสมุทรสาครยังคงสูง คาดการณ์รายได้เกี่ยวกับโควิด-19 ใน 2Q64F อยู่ที่ 42% ของรายได้รวมทาง EKH มีกำลังการตรวจโควิดได้300 ราย/วัน ปัจจุบันตรวจอยู่ที่ 200-300 ราย/วัน ส่วนเตียง IPD ในอาคาร A มีคนไข้โควิดมาใช้บริการเต็ม 82 เตียงในเดือนเม.ย.-พ.ค.64 และบางช่วงต้องเสริมขึ้นเป็น 100 เตียงคาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q64F ไว้ที่ 40-45 ล้านบาท เติบโต YoY และ QoQ ทั้งนี้ใน 2Q63 ร.พ.ขาดทุนสุทธิ -0.2ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33.5 ล้านบาทใน 1Q64

แนะนำซื้อ ปรับราคาพื้นฐานเป็น 8 บาท ทั้งนี้คาดการณ์กำไรสุทธิปี64 -65 เติบโตแข็งแกร่ง เท่ากับ +78%, +5% เป็น 128 ล้านบาท และ 135 ล้านบาท ตามลำดับความเสี่ยงหลัก คือ รายได้จากคนไข้เงินสดเข้ามาน้อยกว่าคาด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่ส่งผลกระทบต่อรายได้รพ.

บล.เคทีบี เอสที มองเช่นเดียวกัน โดยพวกเขามองบวกมากขึ้นต่อ EKH ในแง่เชิง บวกสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเรามองว่าการสนับสนุนให้มีลูกคนที่ 3 เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายวางแผนครอบครัวให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีการลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และคลอดบุตร, การเลี้ยงดูบุตร จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีผู้ใช้บริการจากประเทศจีนทยอยเข้าใช้บริการ IVF ในช่วง ไตรมาสที่ 4 และคาดว่าจะเห็นผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะในปีหน้า เป็นต้นไป

คงกำไรสุทธิปีนี้ เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน เราประเมินกำไรสุทธิปี 2021 ที่ 115 ล้านบาท คาดแนวโน้มครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยหนุนสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศในวันที่ 1 ก.ค. 21 ซึ่งจะมาช่วยหนุนธุรกิจ IVF และการเติบโตของกำไร (ณ ปี 2019 EKH มีสัดส่วนรายได้จาก IVF คิดเป็น 10% ของรายได้รวม และมี upside จากการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และ IVF หากมีผู้ใช้บริการมากกว่าคาด

ไชยรัตน์ ศรีสุข
บรรณาธิการหุ้นและการลงทุน Wealthythai.com