ขนาดของอวัยวะเพศชาย เป็นความภาคภูมิใจในความเป็นชาย หากอวัยวะเพศชายมีขนาดที่พึงพอใจ จะเสริมความมั่นใจได้มากกว่า ในอดีตมีการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศด้วยการ ฉีดซิลิโคน หรือ น้ำมันมะกอก ซึ่งมักทำให้เกิดแผลเรื้อรัง เกิดการอักเสบติดเชื้อ ต้องไปเลาะออกซึ่งเสียค่าใช้จ่ายสูง และเกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศ อาจทำให้เจ็บเวลาอวัยวะเพศขยายตัว
ปัจจุบันมีเทคนิคใช้ไขมันตนเองฉีดเข้าอวัยวะเพศชาย (Fat Transfer) ซึ่งมีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นไขมันตนเองจึงไม่มีผลแทรกซ้อนในระยะยาว ปกติจะดูดไขมันจากบริเวณหน้าท้องหรือบริเวณขาหนีบ โดยไขมันที่ฉีดเข้าไปจะคงอยู่ ประมาณ 50-80% วิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากขนาดแผลเล็ก และเพิ่มขนาดได้ตามต้องการ แต่มีข้อเสียคือ ภายใน ประมาณ 1-2 ปี อาจต้องฉีดซ้ำ เพราะขนาดอวัยวะเพศลดลง จากการที่ไขมันสลายไปบางส่วน และอาจมีข้อเสียเรื่องความไม่สม่ำเสมอของอวัยวะเพศในบางคน
การเตรียมตัวฉีดเติมไขมันอวัยวะเพศชาย
- งดยาแอสไพริน หรือยาลดการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว
- อาบน้ำมาให้เรียบร้อย ใส่กางเกงชั้นในหลวมๆ
- ไม่ต้องงดน้ำงดอาหารก่อนเข้ารับบริการ
ขั้นตอนการฉีดเติมไขมันอวัยวะเพศชาย
- แพทย์จะทำการฉีดยาชา บริเวณที่ต้องการดูดไขมัน หรือดมยาสลบ
- สอดเข็มสำหรับดูดไขมัน โดยทั่วไปแพทย์จะดูดไขมันมาประมาณ 20-50 ซีซี
- ฉีดไขมันตรงตำแหน่งที่ต้องการ
- แพทย์จะนวดบริเวณอวัยวะเพศเบาๆ เพื่อให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปเกลี่ยรอบอวัยวะเพศ และให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง
- การดูแลหลังฉีดเติมไขมันอวัยวะเพศชาย
- จะมีแผลบริเวณที่ดูดไขมันประมาณ 1 ซม. ให้ใช้เบตาดีนเช็ดแผล เช้า-เย็น
- แพทย์จะนัดตัดไหมบริเวณที่ดูดไขมัน 5-7 วัน
- อาจมีอาการบวมประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากมีอาการบวมมาก แนะนำปรึกษาแพทย์
- งดการมีเพศสัมพันธ์ 4 สัปดาห์ หลังฉีดเติมไขมัน
- งดยกของหนักประมาณ 7-10 วัน
เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับจุดซ่อนเร้นของคุณผู้ชาย ได้อย่างปลอดภัย ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม
นายแพทย์พัทยา ตันธนาธิป
เฉพาะทาง : ศัลยกรรมตกแต่ง
ติดต่อสอบถามและนัดหมายได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม
โทร.034-417999 ต่อ 132, 133 หรือสายด่วน 1715