การพูด คือหนี่งในพัฒนาการที่สำคัญยิ่งสำหรับลูกน้อย เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอื่นๆต่อไป โดยทั่วไปแล้วเด็กที่เจริญเติบโต และมีพัฒนาการเป็นปกติ ก็จะมีพัฒนาการ ด้านการพูดเป็นปกติ จะเป็นไปตามวัย อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกัน เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับการพูดและใช้ภาษา หากสังเกตุความผิดปกติได้ช้า นอกจากจะแก้ไขยากแล้ว เด็กก็จะมีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจตามมา เนื่องจากไม่สามารถจะติดต่อสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ มักจะหงุดหงิด ก้าวร้าว ฉุนเฉียว เกเร ไม่มีเพื่อน และมีปัญหาในการเข้าสังคมและการเรียนต่อไป
โรคที่พบได้จากการพูดที่ผิดปกติ….
- การได้ยินผิดปกติ ไม่เข้าใจคำสั่ง พูดไม่ได้ ร่วมกับไม่ตอบสนองต่อเสียง จ้องมองหน้าหรือริมฝีปากของคู่สนทนา และใช้ภาษาหรือท่าทางในการสื่อสาร อาจพบปัญหาทางอารมณ์ร่วม
- ภาวะสติปัญญาบกพร่อง / ปัญญาอ่อน
- ออทิสติก
- พัฒนาการทางภาษาผิดปกติ
- ขาดการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสม
เมื่อไหร่จึงควรไปพบนักฝึกพูด
การที่จะบอกว่าลูกมีปัญหาทางด้านการพูดหรือพูดช้าหรือไม่นั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกว่ามีพฤติกรรมการพูดตั้งแต่ขวบปีแรก และการพบความผิดปกติได้เร็ว ก็จะทำให้ลูกได้รับการรักษาได้เร็ว โดยลูกจะมีลำดับขั้นของพัฒนาด้านภาษาและการพูดอย่างต่อเนื่อง จนสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ เมื่ออายุ 7 ปี ขึ้นไป รวมถึงสมองด้านการพัฒนาทักษะการพูดก็จะหยุดลงด้วย ดังนั้นจึงควรเข้ารับการรักษาก่อนช่วงอายุดังกล่าว จึงจะได้ผลดีที่สุด
พัฒนาการทางด้านการพูด ในแต่ละช่วงอายุ:
ช่วงอายุ | การเข้าใจภาษา | การใช้ภาษา |
3 – 4 เดือน | – | – ส่งเสียงโต้ตอบ ทำเสียง “อาอือ”
– หัวเราะเสียงดัง |
4– 10 เดือน | – | – เล่นเสียงสูงต่ำ เริ่มมีเสียงพยัญชนะ
– เปล่งเสียงซ้ำๆ |
10 – 12 เดือน | – | – พูดคำที่มีความหมาย หลายคำติดกัน
– พูดเลียนคำท้าย – ชี้อวัยวะร่างกายตามคำบอก |
12 – 24 เดือน | – เข้าใจคำพูดที่ได้ยินบ่อย ๆ
– ทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น – เข้าใจคำห้ามง่ายๆ |
– พูดเป็นคำที่มีความหมายได้ราว 10 – 50 คำ เพื่อบอกความต้องการ |
24 – 36 เดือน | – เข้าใจประโยคคำถามง่ายๆ ได้
– รู้จักและเข้าใจคำศัพท์ อย่างน้อย 500 คำ |
– พูดเป็นวลี 2 คำต่อกันได้
– ตอบคำถามง่ายๆ เช่น ใช่ หรือ ไม่ได้ |
36 – 48 เดือน | – เรียนรู้การเข้าสังคมด้วยการพูด | – พูดเป็นประโยคแล้ว ใช้ในการบอกเล่า ปฏิเสธ ถามคำถาม
– รู้จักถาม อะไร ใคร ที่ไหน |
48 – 72 เดือน | – เข้าใจรูปประโยคที่เป็นเหตุผล
– ข้าใจลำดับเวลา – รุ้จักความหมายของป้าย หรือสัญลักษณ์ที่พบเห็น – เข้าใจว่าสิ่งของมีคุณลักษณะเหมือนกัน ต่างกัน อย่างไร |
– ถามคำถามทำไม เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลักษณะประโยคมีความยาวคล้ายผู้ใหญ่ – เล่าเรื่องที่คุ้นเคย – เล่าเรื่องเรียงลำดับเหตุการณ์ – รู้จักใช้คำเปรียบเทียบ ขนาดรูปร่าง ลักษณะ |
นอกจากการสังเกตการณ์พูดของลูกน้อย เพื่อพิจารณาความผิดปกติที่เกิด เพื่อการรับการรักษาแล้ว ครอบครัวยังมีส่วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการพูดตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาการได้ โดยมีหลากหลายวิธี เริ่มจากการเตรียมความพร้อมเด็กก่อนที่จะสอนพูด ควรฝึกการเปล่งลม เคลื่อนไหวปาก โดยการเป่ามือ เป่ากระดาษ เป่าลูกปิงปอง เป่าฟองสบู่ เป่านกหวีด ฝึกการเคลื่อนไหวลิ้น โดยการอมลูกอม เลียอมยิ้ม และฝึกการเล่นเสียงในถ้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกพูดผ่านของเล่น พร้อมการพูดคุย การสร้างสถานการณ์ ที่กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารเป็นต้น แต่ทั้งนี้หากพบความผิดปกติของลูก ให้รีบพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของการรักษา
ข้อมูลเพิ่มเติม : คลินิกแก้ไขการพูด ศูนย์แม่และเด็ก
——————————————————————–
ข้อมูลคลินิก:
คลินิกแก้ไขการพูด Speech Therapy
ให้การบริการครอบคลุม ปัญหาทางด้านภาษา และการพูด ได้แก่
1. คัดกรองหาข้อบ่งชี้ ประเมินสภาพความผิดปกติทางด้านภาษาและการพูด เช่น
- พูดไม่ชัด
- จังหวะการพูดผิดปกติ(พูดติดอ่าง พูดรัวเร็ว)
- พัฒนาการทางภาษาและการพูดล่าช้าไม่สมวัย
- อาการผิดปกติของการพูด ความเข้าใจภาษา (Aphasia)
- เสียงผิดปกติ
- พูดผิดปกติจากความบกพร่องของระบบประสาทควบคุมการพูด
- พูดผิดปกติจากปากแหว่งเพดานโหว่
- ความผิดปกติทางภาษาและการพูดจากความบกพร่องทางการเรียนรู้
2. ทดสอบความสามารถทางภาษาและการพูด
3. บำบัดรักษา แก้ไข และฟื้นฟูสมรรถภาพการพูด
4. วินิจฉัยความผิดปกติทางภาษาและการพูด
5. ให้คำแนะนำด้านการฝึกภาษาและจัดโปรแกรมเพื่อให้ผู้ปกครองนำไปฝึกที่บ้าน
ปรึกษานักฝึกพูด ติดต่อ : ศูนย์พัฒนาการเด็กและวัยรุ่น (Child and Teen Development Center ) โทร. 1715 หรือ 034-417-999 ต่อ 9125, 9126