- กลุ่มเด็กและวัยรุ่น (อายุ 0-18 ปี) สุขภาพของกลุ่มเด็กช่วงวัยนี้ ส่วนมากจะถูกดูแลมาตั้งแต่แรกเกิด โดยพ่อแม่เป็นผู้ดูแลหลัก
- กลุ่มวัยทำงาน (อายุ 18-60 ปี) กลุ่มช่วงวัยนี้เป็นกลุ่มที่การดูแลสุขภาพส่วนใหญ่ จะขึ้นอยู่กับ “ตนเอง” เป็นหลัก
- กลุ่มวัยผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) กลุ่มช่วงวัยนี้ส่วนใหญ่เรื่องการดูแลสุขภาพส่วนใหญ่ จะไปอยู่ที่กลุ่มวัยทำงาน หรือลูกหลานที่เป็นผู้ดูแล
- กลุ่มหญิงมีครรภ์ กลุ่มนี้การดูแลสุขภาพจะเน้นไปทางสุขภาพของทั้งแม่และลูกร่วมกัน
1.กลุ่มเด็กและวัยรุ่น จะมุ่งเน้นไปที่การตรวจร่างกายทั่วไป (ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง) เพื่อค้นหาความผิดปกติ ประเมินการเจริญเติบโตตามวัย และเฝ้าระวังด้านพัฒนาการเป็นระยะ รวมไปถึงการให้วัคซีนต่างๆ ตามกำหนดเวลาเพื่อป้องกันการเกิดโรค
2. กลุ่มวัยทำงาน จะมีการประเมินภาวะสุขภาพหาความเสี่ยงของโรค โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ครอบครัวมีประวัติป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ร่วมกับการตรวจร่างกายทั่วไป การตรวจสุขภาพช่องปาก ตรวจการได้ยิน การตรวจทาพิ่มเติงห้องปฏิบัติการหรือการตรวจแล็ป
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้วผู้หญิง ควรมีการตรวจเต้านม คือ
- ตรวจเต้านม อายุ 30-39 ปี ควรตรวจเต้านมทุกๆ 3 ปี และอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปี
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อายุ 30 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองด้วย Pap’s smear ทุก 3 ปี หรือวิธีป้ายหาความผิดปกติโดยใช้กรดอะซิติก (VIA) ทุก 5 ปี หากอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจด้วยวิธี Pap’s smear แม้ว่าจะเคยหรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็ตาม ซึ่งการตรวจร่างกายดังกล่าวควรตรวจปีละครั้ง หรือทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ด้วยเรื่องอื่น
3. กลุ่มวัยผู้สูงอายุ นอกจากการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ผู้สูงอายุทั้งเพศชายและหญิงควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม คือ การตรวจตา ตรวจอุจจาระ การประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการ และสำหรับผู้สูงอายุเพศหญิงจะเพิ่มการตรวจเต้านม และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย
4. กลุ่มหญิงมีครรภ์ โดยทั่วไปจะแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 5 สัปดาห์ขึ้นไป มาฝากครรภ์และควรไปตรวจตามนัดทุกระยะ ตั้งแต่อายุครรภ์ 5-12, 13-18, 19-26, 27-32 และ 33-38 สัปดาห์ ซึ่งการตรวจสุขภาพหญิงมีครรภ์จะช่วยในเรื่องการคัดกรองการติดเชื้อหรือภาวะผิดปกติที่สามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้