ตรวจมะเร็งปากมดลูก มีกี่วิธี แต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างไร

    • การตรวจด้วยวิธีแปปสเมียร์(Pap Smear) เป็นการตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ หรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็ง ข้อดี คือราคาถูก แต่มีความไวของการพบเซลล์ผิดปกติค่อนข้างต่ำ ประมาณ 40-70%
    • การตรวจด้วยวิธีตินเพร็พ(Thin Prep) เป็นการตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ แต่ให้ผลที่มีประสิทธิภาพ และแม่นยำกว่าวิธีแปปสเมียร์ความไวของการพบเซลล์ที่ผิดปกติสูง 80-90%
    • การตรวจด้วยวิธี Thin Prep plus HPV DNAเป็นการตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติ ด้วยวิธี Thin prep ร่วมกับ การตรวจหาเชื่อไวรัสก่อโรค HPV(Human Papilloma Virus) การตรวจวิธีนี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกได้ถึง 100%

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเริ่มตรวจได้เมื่อไหร่

  • สตรีทุกคนที่อายุ 21 ปีขึ้นไป หรือตรวจ 3 ปี หลังมีเพศสัมพันธ์ ขึ้นกับว่าเวลาใดถึงก่อน หลังจากนั้นตรวจทุก 1-2 ปี
  • สตรีที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุกปี ต่อเนื่อง 3 ปี หากปกติ สามารถตรวจทุก 3 ปีได้ ยกเว้นผู้ที่พบเชื้อไวรัสHPV หรือมีภูมิต้านทานต่ำ ควรตรวจซ้ำทุกปี

การเตรียมตัวตรวจมะเร็งปากมดลูก

  1. ตรวจได้ทุกช่วงเวลา ยกเว้นช่วงมีประจำเดือน ควรตรวจหลังมีประจำเดือนไปแล้ว 5 วันขึ้นไป แต่ถ้าเลือดออกผิดปกติ สามารถมาพบแพทย์ตรวจภายในได้ทันที เพื่อการวินิจฉัยความผิดปกติให้เร็วขึ้น
  2. คนที่สอดยารักษาตกขาวผิดปกติ วันที่มาตรวจภายในไม่ควรสอดยามา
  3. ควรปัสสาวะออกให้หมดก่อนมาพบตรวจ เพราะแพทย์จะมีการตรวจขนาดมดลูกร่วมด้วย
  4. งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนตรวจภายในอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  5. สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่ต้องงดอาหาร