ภาวะตัวเหลืองในทารก หมายถึง ทารกที่มีระดับบิลิรูบินในเลือดสูงซึ่งจะมีอาการตัวเหลืองปรากฏให้เห็นที่ผิวหนัง เปลือกตา และเล็บ ส่วนใหญ่จะไม่เหลืองในวันแรกเกิด แต่จะค่อยๆเหลืองมากขึ้นช้าๆในวันที่ 2 และ 3 และสูงสุดในวันที่ 4 และจะเริ่มลดลงอย่างช้าๆในวันที่ 5 และ 6
อาการ
สารบิลิรูบิน จะอยู่ในกระแสเลือดและไปจับตามเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย ผิวหนังทารกจึงเป็นสีเหลือง ตาขาวจะมีสีเหลืองและหากระดับบิลิรูบินสูงเกินไป จะไปจับกับเซลล์สมอง อาจทำให้มีอาการผิดปกติ เช่น ซึม ไม่ดูดนม ร้องเสียงแหลม ชัก เกร็ง หลังแอ่น ทารกมีปัญญาอ่อน พิการ หูหนวกตามมาได้
สาเหตุ
1.มีการสร้างบิลิรูบินมากเกินไป ได้แก่
- การแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ
- หมู่เลือดของมารดาและทารกไม่เท้ากัน
- ภาวะเลือดออก เช่น จุดเลือกออกในสมอง
- ภาวะเลือดแดงข้นมากเกินไป
- การอุดตันในระบบทางเดินอาหาร หรือ การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง
2.การขับถ่ายบิลิรูบินลดลง ได้แก่
- ภาวะท่อน้ำดีอุดตัน
- ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานลดลง
3.การสร้างบิลิรูบินมากขึ้นร่วมกับการขับถ่ายลดลง ได้แก่
- การติดเชื้อในครรภ์
- การติดเชื้อของทารกในระยะแรกเกิด
4.สาเหตุอื่นๆได้แก่
- ตัวเหลืองจากนมแม่ อาจเหลืองนาน 7-10 วัน
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
- โรคบางอย่างที่ยับยั้งการขับถ่ายบิลิรูบิน
การรักษา
1.การรักษาด้วยแสง
จะใช้แสงฟลูออเรสเซนต์ส่องที่ผิวหนังทารก ซึ่งแสงไฟจะสลายบิลิรูบินแล้วถูกขับออกมากับอุจจาระ และบางส่วนออกมาขับปัสสาวะ การรักษาด้วยแสงมีผลข้างเคียงดังนี้
- ถ่ายเหลวสีเขียวคล้ำ และบ่อยครั้ง
- มีผื่นแดงตามตัว ผิวหนังแห้งและลอก
- มีไข้ ขาดน้ำ
- ท้องอืด
- ผิวหนังมีสีน้ำตาลดำ(บรอนซ์เบบี้)
2.การรักษาด้วยยา
โดยใช้ยาจำพวก BABITURATE เช่น PHENOBARB ทำให้ตับสามารถขับบิลิรูบินได้มากขึ้น การใช้ยาอาจทำให้ทารกซึมได้
3.การเปลี่ยนถ่ายเลือด
การเปลี่ยนถ่ายเลือดจะใช้เลือดที่เก็บไว้ไม่เกิน 3 วัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการรักษา ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ร้อยละ 1 มีดังนี้
- หัวใจวาย
- การติดเชื้อ
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
วิธีการสังเกตอาการตัวเหลืองของทารก
- สังเกตอาการอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เมื่อทารกตื่นและลืมตา โดยวางทารกบนผ้าขาวในที่มีแสงสว่างเพียงพอ
- ประเมินความเหลืองที่ผิวหน้า โดยใช้นิ้วกรีดไล่เลือดที่ฝ่าเท้าทารก แล้วเปรียบเทียบความเหลืองใบหน้าหรือหน้าอกทารก
- หากว่าใบหน้าและหน้าอก และฝ่าเท้าเหลืองเท่ากัน หรือตาขาวเหลืองชัดเจน แสดงว่าทารกมีอาการตัวเหลืองผิดปกติ ควรรีบนำไปพบแพทย์
ปัญหาภาวะตัวเหลือง ในทารกแรกเกิดส่วนใหญ่ป้องกันได้ การวินิจฉัยและการดูแลรักษาที่เหมาะสมจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน ความพิการ และการสูญเสียชีวิตของทารก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์เด็กสุขภาพดี
โทร. (034) 417-999 ต่อ 9221, 9212 สายด่วน 1715