วัคซีนอีสุกอีใส งูสวัด (Varicella vaccine)

โรคงูสวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลล่า ซอสเตอร์ (varicella zoster virus) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส สำหรับผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใส มีความเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้ทุกคน โดยเชื้อไวรัสซอสเตอร์สามารถติดต่อผ่านทางการหายใจ และสัมผัสตุ่มน้ำใสโดยตรง ซึ่งเมื่อหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสซอสเตอร์จะหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกายนานหลายปี โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จนเมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ เชื้อที่แฝงอยู่จะเพิ่มจำนวนและกระจายตามแนวเส้นประสาททำให้เกิดเป็นผื่นคันแสบร้อนเป็นแนวยาวตามเส้นประสาทกลายเป็นโรคงูสวัดนั่นเอง อาการปวดเส้นประสาทหลังเป็นงูสวัดหรือ  post-herpetic neuralgia เป็น กลุ่มอาการที่ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมาณมาก

webmd_illustration_of_shingles_virus

ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า “ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคอีสุกอีใส พอมีอายุจึงเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้ง่าย ซึ่งจากสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยโรคงูสวัดกว่า 1 ล้านรายต่อปี และร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคงูสวัดมีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป เพราะประชาชนเกือบทุกคนมักเคยเป็นโรคอีสุกอีใส ดังนั้น คนไทยวัยสูงอายุ ร้อยละ 95 จึงเสี่ยงเป็นโรคงูสวัด”

วัคซีนอีสุกอีใสสามารถป้องกันโรคได้ประมาณ 90% ส่วนอีก 10% ของผู้ที่ได้รับวัคซีน มีโอกาสเป็นโรคได้ แต่อาการมักไม่รุนแรงอย่างการติดเชื้อทางธรรมชาติ อีกทั้งวัคซีนยังลดการเกิดโรคงูสวัดและอาการปวดเส้นประสาทหลังเป็นงูสวัด (post-herpetic neuralgia) ได้อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

แนะนำวัคซีนงูสวัด